ชนิดของยางและการใช้งาน. ยางแบ่งออกเป็น 2 ชนิดหลักๆ ได้แก่. 1. ยางธรรมชาติ 2. ยางสังเคราะห์
1. ยางธรรมชาติ (NR)
ยางธรรมชาติ (NR) คือ ยางที่มาจากต้นยางพาราโดยตรง ไม่ผ่านกรรมวิธีการใด ๆ
การนำยางธรรมชาติไปใช้งานมีอยู่ 2 รูปแบบคือ รูปแบบน้ำยาง และรูปแบบยางแห้ง ในรูปแบบน้ำยางนั้นน้ำยางสดจะถูกนำมาแยกน้ำออกเพื่อเพิ่มความเข้มข้นของเนื้อยางขั้นตอนหนึ่งก่อนด้วยวิธีการต่าง ๆ แต่ที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรมคือการใช้เครื่องเซนตริฟิวส์ ในขณะที่การเตรียมยางแห้งนั้นมักจะใช้วิธีการใส่กรดอะซิติกลงในน้ำยางสด การใส่กรดอะซิติกเจือจางลงในน้ำยาง ทำให้น้ำยางจับตัวเป็นก้อน เกิดการแยกชั้นระหว่างเนื้อยางและน้ำ ส่วนน้ำที่ปนอยู่ในยางจะถูกกำจัดออกไปโดยการรีดด้วยลูกกลิ้ง 2 ลูกกลิ้ง วิธีการหลัก ๆ ที่จะทำให้ยางแห้งสนิทมี 2 วิธีคือ การรมควันยาง และการทำยางเครพ แต่เนื่องจากยางผลิตได้มาจากเกษตรกรจากแหล่งที่แตกต่างกัน ทำให้ต้องมีการแบ่งชั้นของยางตามความบริสุทธิ์ของยางนั้น ๆ ผลิตภัณฑ์จากยางธรรมชาติ ได้แก่ ยางรถยนต์, รองเท้า, ท่อยาง, ปูพื้น, ลูกล้อ, ยางแท่นเครื่อง
สรุปคุณสมบัติของยางยางธรรมชาติ NR
-ทนการเสียดสี
- รับแรงกระแทก
- ยืดหยุ่นตัวดี
- ทนความร้อนได้ -20°C ถึง 80°C
2. ยางสังเคราะห์
ยางสังเคราะห์ คือ ยางวิทยาศาสตร์เป็นยางที่มนุษย์ผสมขึ้นมาเองได้แก่ ยาง NBR, SR, EPDM, SILICONE, VITON, HYPALON, CR, NEOPRENE, THERMOPLASTIC POIYURTEHANES และ URETHANE แต่ละชนิดมีคุณสมบัติดังนี้
ยางเทียมสังเคราะห์ (Synthesis Rubber SR) เป็นยางสังเคราะห์ที่ใช้งานกันมากในสหรัฐอเมริกา ยางมีส่วนผสมของบิวทาไดน์ 78% กับสไตรีน 22% มันอาจจะถูกผสมกันที่อุณหภูมิ 40 องศาฟาเรนไฮต์ เมื่อนำมาผสมกันที่ 40 องศาฟาเรนไฮต์ยางจะมีคุณสมบัติพิเศษกว่า ยางธรรมชาติจึงนำไป ใช้ทำยางรถยนต์ ยางสังเคราะห์มีความต้านทานต่อการขูดถลอก สภาวะของลมฟ้าอากาศที่แปรเปลี่ยนไป ต้านทานไฟฟ้าได้ดี เมื่อทิ้งไว้ให้ตากแดด ตากลม โอโซน แก๊สโซลีน และน้ำมัน ยางจะชำรุดเสียหายได้ ยางนี้ยังใช้ทำท่อยาง พื้นฉนวน สายพานลำเลียง วัสดุหีบห่อ พื้นรองเท้า
สรุปคุณสมบัติของยาง
- การใช้งานคล้ายยาง NR
- ทนการเสียดสี
- ต้านทานไฟฟ้าได้ดี
- ทนความร้อนได้ -20°c ถึง 80°c
ยางโพลียูรีเทน (Polyurethane, PU) ผลิตขึ้นครั้งแรกในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อใช้ทดแทนยางธรรมชาติ และยังใช้ผลิตผ้าที่มีความทนทาน เคลือบผิวเครื่องบิน โลหะ เพื่อป้องกันการกัดกร่อนและสารเคมี โพลียูรีเทนผลิตจากโพลีออลกับไดไอโซไซยาเนตหรือโพลีเมอริก ไอโซไซยาเนต โพลียูรีเทนส่วนใหญ่เป็นพลาสติกชนิดเทอร์โมเซ็ต คือ ไม่สามารถหลอมเหลวและขึ้นรูปใหม่ได้ ซึ่งผลิตออกมาหลายรูปแบบได้แก่ ท่อลมอัด เป็นโฟมยืดหยุ่น โฟมแข็ง สารเคลือบป้องกันสารเคมี
สรุปคุณสมบัติของยาง POLYURETHANE
- ทนต่อการเสียดสีได้ดีมาก
- ทนต่อแรงลมอัดได้สูง
- ทนน้ำมัน
- ทนความร้อนได้ -40°c ถึง 100°c
ยางเทอร์โมพลาสติก โพลียูรีเทน (Thermoplastic Polyurethanes) TPU มีลักษณะอ่อนเหมือนกัน แต่ไม่อ่อนเท่าเนื้อของ TPU จะลื่นกว่าและมีความแข็งกว่า ส่วนใหญ่จะนำมาใช้เป็นยางกันกระแทกที่จะใช้ TPU เป็นวัสดุ ด้วยเหตุผลที่คงทนกว่า ไม่เกิดอาการย้วย วัสดุประเภทนี้จะไม่เสียทรง หรือ สูญเสียทรงน้อยมาก
สรุปคุณสมบัติของยาง TPU
- ทนต่อการกระแทกได้ดีมาก
- มีความยืดหยุ่นดี
- ทนน้ำมัน
- ทนความร้อนได้ -50°c ถึง 220°c
Leave a comment
0 Comments