ข่าวสาร

เอส.เอส.พี.รับเบอร์ ชูจุดแข็งสินค้าคุณภาพ ราคาถูก ลุยตลาดชิ้นส่วนยางขึ้นรูป คาดปีมะโรง ยอดขายโต20%

“เอส.เอส.พี.รับเบอร์” ไม่หวั่นสึนามิน้ำจืดทำยอดหด คาดปี 2555 ดีมานด์อะไหล่ยางขึ้นรูปดันยอดโต20 % งัดจุดเด่นราคาถูก คุณภาพดี  พร้อมรับมือเต็มที่เพื่อประคองบริษัทฯและลูกค้ารอดจากสถานการณ์น้ำท่วม

            นางศศิลภัส ผดุงโภไคยวงศา กรรมการผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนสามัญ เอส.เอส.พี.รับเบอร์ กล่าวว่า ในปี 2555 บริษัทฯมั่นใจคาดมียอดขายโตกว่า  20เปอร์เซ็นต์ ซึ่งได้รับอานิสงส์จากปัญหาอุทกภัยน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ทำให้ โรงงานต่าง ๆ ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมากทั้งส่วนของเครื่องจักรและอาคารสถานที่

ดังนั้นในปี 2555 หลังจากน้ำลดหลายบริษัทฯ ที่ได้รับกระทบจนต้องหยุดผลิตจะต้องเร่งผลิตสินค้าและซ่อมแซม พร้อมผลิตเครื่องจักรใหม่มาทดแทนส่วนที่เสียหาย ซึ่งเครื่องจักรส่วนใหญ่ใช้อะไหล่ที่เป็นยางมาเป็นส่วนประกอบทางบริษัทฯ จึงมั่นใจว่ายอดขายโตขึ้นอย่างแน่นอน

            “อุทกภัยน้ำท่วมที่เกิดขึ้นบริษัทฯได้รับผลกระทบอยู่บ้าง แต่เราเตรียมมาตรการป้องกันไว้เป็นอย่างดี  ทำให้สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ ขณะนี้สิ่งที่ทำได้คือการประคองตัวเองและลูกค้าให้อยู่ได้จากเหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้น แต่ยังมีลูกค้าส่วนหนึ่งได้รับผลกระทบและปิดโรงงานชั่วคราว ส่งผลให้ปลายปี 2554  ออเดอร์อาจลดบ้างเล็กน้อย” นางศศิลภัส กล่าว

             จุดเด่นของบริษัทฯคือ สินค้ามีคุณภาพ ราคาไม่แพง และใส่ใจลูกค้าทุกขั้นตอน ทำให้บริษัทฯได้รับการไว้วางใจจากบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งอาทิ เครือซิเมนต์ไทย และ แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย)  เป็นต้น บริษัทฯดำเนินธุรกิจโดยยึดมั่นหลักการความซื่อสัตย์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดีที่สุดให้กับลูกค้า จึงมั่นใจได้ว่าสินค้าทุกชิ้นมีคุณภาพ ส่งถึงลูกค้าครบตรงเวลา

            นางศศิลภัส กล่าวถึงแนวโน้มราคายางในปัจจุบันว่า ราคายางขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง การรับซื้อยางถูกกำหนดราคาโดยผู้ซื้อรายย่อย (ยี่ปั๊ว) เป็นหลัก ส่วนเรื่องการทำสต๊อกยางนั้นสามารถบูรณาการ เพื่อรักษาเสถียรภาพได้ แต่ต้องพิจารณาจากตลาดโลกด้วย นอกจากนี้ในส่วนของตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า นับว่าเป็นเครื่องมือในการรักษาความยุติธรรมให้กับทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ทำให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องสบายใจได้ว่าไม่มีใครสามารถมากำหนดราคาเองได้ แต่การบริหารสต๊อกยางนั้นต้องมีความเข้าใจ เพราะมีรายละเอียดปลีกย่อยในการบริหารจัดการอยู่มาก

ทั้งนี้ ห้างหุ้นส่วนสามัญ เอส.เอส.พี.รับเบอร์ ดำเนินธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์ อะไหล่เครื่องจักรเกี่ยวกับยาง ยางติดเหล็กทุกประเภท อาทิ ผลิตภัณฑ์จากยางธรรมชาติ (NR) ยางไวตอน (VITON) ยางอีพีดีเอ็ม (EPDM) ยางซิลิโคน (Silicone) ยางไฮพาล่อน (Hypalon) ยางนิโอปริน ยางเอสบีอาร์ (SBR) ยางไนไทรล์ (NBR) ยางคลอโรพริน (CR) ที่เหมาะสำหรับอุตสาหกรรมทุกชนิด ตามความเหมาะสมของงาน และจำหน่าย ยางพาราในประเทศและต่างประเทศ ในแถบทวีปเอเชีย ทั้งยังมีฐานการผลิตยางพาราที่มีคุณภาพจากทางภาคใต้ ภาคอีสานและระยอง

นายพงษ์ศักดิ์ เกิดวงศ์บัณฑิต นายกสมาคมยางพาราไทย กล่าวว่า ปัจจัยส่งผลต่อราคายางมีหลายปัจจัยเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นปริมาณการเก็บ stock ของประเทศจีน เกี่ยวกับความรู้สึกของตลาด ข่าวลือต่างๆ ในช่วงที่ราคาปรับตัวขึ้นไปเรื่อยๆ อย่างรวดเร็วนั้น บริษัทอยู่ได้เพราะซื้อยางในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าไว้เพื่อป้องกันความเสี่ยงและในปัจจุบันบริษัทร่วมทุนยางพาราระหว่างประเทศ ได้ทำหนังสือเสนอถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แจ้งขอความร่วมมือประเทศอินโดนีเซีย และประเทศมาเลเซีย ให้มีมาตรการร่วมรักษาราคายางให้อยู่ที่ 300 เซ็นต์ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทั้งสองประเทศ

            นอกจากนั้น จะจัดตั้งตลาดร่วม 3 ประเทศ (regional market) ซึ่งจะมีตลาดสินค้าล่วงหน้าแห่งประเทศไทยเป็นตัวแทนของประเทศไทย เพื่อจะได้ตั้งราคาซื้อขายยางได้เอง ไม่ต้องอิงราคาจากตลาดอื่นๆ และอยากให้สวนยางในประเทศไทยสามารถขาย carbon credit ได้ด้วย ดังนั้น หากจะมีการเก็บสต๊อกยางของรัฐบาล ควรให้มีการเก็บในช่วงสั้นๆ มิฉะนั้นก็จะเป็นปัจจัยให้ราคายางตกต่ำอีก ควรให้มีการเพิ่มสัดส่วนการใช้ยางธรรมชาติจากปัจจุบันใช้ 40 เปอร์เซ็นต์เพิ่มเป็น 50 เปอร์เซ็นต์และยกเลิก BOI ของอุตสาหกรรมยาง ต้นน้ำ และกลางน้ำ พร้อมทั้ง เสนอให้มีการบริหารเงิน Cess มาใช้ในการวิจัยการแปรรูปผลิตภัณฑ์สำหรับวิสาหกิจชุมชน

Read more...

“เอส.เอส.พี.รับเบอร์” แตกไลน์รุกธุรกิจความงาม จับมือ พลอยใส เปิดตัวกาแฟลดน้ำหนัก เจาะกลุ่มเป้าหมาย อยากสวย อยากเพียว พร้อมเปิดตัวสินของของบริษัทภายใต้แบรนด์ “Gienak” ส่วนธุรกิจยางขึ้นรูปตั้งเป้ายอดขายโต 30 %

          นางศศิลภัส ผดุงโภไคยวงศา กรรมการผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนสามัญ เอส.เอส.พี.รับเบอร์ กล่าวว่าในปี 2555 บริษัทฯ ได้ทำการแตกไลน์ธุรกิจด้วยการจับมือกับบริษัท พลอยใส เฮลท์แคร์ จำกัด เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ และในปีนี้บริษัทมีแผนเปิดตัวสินค้าที่เกี่ยวกับเครื่องสำอาง ประกอบไปด้วยผลิตภัณฑ์ความงาม และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพครบวงจร ภายใต้แบรนด์ “Gienak”  โดยตั้งเป้าสัดส่วนการขายกาแฟ ”พลอยใส”80 เปอร์เซ็นต์ และ “Gienak” 20  เปอร์เซ็นต์

            “จากการที่บริษัทฯได้รับความไว้วางใจจากคุณ เกรียงศักดิ์ คัมภีรัญย์ ประธานกรรมการ บริษัท พลอยใส เฮลท์แคร์ จำกัด ในการเป็นตัวแทนจำหน่ายกาแฟลดน้ำหนักพลอยใสอย่างเป็นทางการ เบื้องต้นตั้งเป้ายอดขายกาแฟลดน้ำหนักพลอยใสประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ และผลิตภัณฑ์ของบริษัทเองที่ เกี่ยวกับเครื่องสำอาง ซึ่งประกอบไปด้วยผลิตภัณฑ์ความงาม และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพครบวงจร ภายใต้แบรนด์ “Gienak”  โดยตั้งเป้าสัดส่วนการขายประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ “

นางศศิลภัส  กล่าวถึงมาตรฐานการผลิตสินค้าของบริษัทว่า “Gienak”  มีโรงงานผลิตสินค้าที่ได้มาตรฐาน มีเครื่องจักรในการผลิตที่ทันสมัย ที่ผ่านการควบคุมโดยเภสัชกรซึ่งมีประสบการณ์ด้านการวิจัยมากกว่า 20 ปี ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากบริษัทเครื่องสำอางชั้นนำหลายแห่งในการผลิตเครื่องสำอาง

            “การที่บริษัทฯได้ก้าวเข้าสู่บทบาทการเป็นตัวแทนกระจายสินค้าให้กับบริษัท พลอยใส เฮลท์แคร์ จำกัด และได้ทำการเปิดตลาดมาเป็นเวลาประมาณ 3 เดือนนั้น บริษัทฯได้รับผลตอบรับดีเป็นอย่างมากจากลุ่มลูกค้าทั้งที่เป็นร้านค้า ศูนย์จำหน่ายทั่วประเทศและประชาชนทั่วไป ซึ่งนับว่าได้รับความไว้วางใจในครั้งนี้จาก “พลอยใส” เป็นอีกก้าวแห่งการเติบโตที่สำคัญ ซึ่งสามารถขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจรูปแบบใหม่ในครั้งนี้ให้เติบโตต่อไปได้ ทั้งนี้ หากกลุ่มลูกค้ามีความสนใจในผลิตภัณฑ์ดังกล่าวสามารถติดต่อได้ที่เบอร์  087-798-9368, 02-895-7902 fax.02-416-9989 ”นางศศิลภัส กล่าว

สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจยางขึ้นรูปซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัท ในปีนี้คาดว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากตลาดมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยออเดอร์ที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งมาจากผู้รับเหมาที่สั่งซื้อวัตถุดิบที่ใช้ในการซ่อมแซมโรงงาน และอีกส่วนหนึ่งคือการเปิดตัว เครื่องรีดยาง ซึ่งถือเป็นสินค้าใหม่ที่มีออเดอร์สั่งซื้อจำนวนมาก

และที่สำคัญยังได้รับการสนับสนุนที่ดีในทุก ๆ ด้านจากพันธมิตรสำคัญ คือ บริษัท สหผลิตภัณฑ์ พาณิชย์ จำกัด ที่ได้ให้คำปรึกษาและแนะนำเกี่ยวกับตัวสินค้าต่าง ๆ มาเป็นระยะเวลานาน

“จุดเด่นของบริษัทฯคือ สินค้ามีคุณภาพ ราคาไม่แพง และใส่ใจลูกค้าทุกขั้นตอน ทำให้บริษัทฯได้รับการไว้วางใจจากบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งอาทิ เครือซิเมนต์ไทย และ แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย)  เป็นต้น บริษัทฯดำเนินธุรกิจโดยยึดมั่นหลักความซื่อสัตย์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดีที่สุดให้กับลูกค้าจึงมั่นใจได้ว่าสินค้าทุกชิ้นมีคุณภาพ ส่งถึงลูกค้าครบและตรงเวลา” นางศศิลภัส กล่าวตอนท้าย

ห้างหุ้นส่วนสามัญ เอส.เอส.พี.รับเบอร์ ดำเนินธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์ อะไหล่เครื่องจักรเกี่ยวกับยาง ยางติดเหล็กทุกประเภท อาทิ ผลิตภัณฑ์จากยางธรรมชาติ (NR) ยางไวตอน (VITON) ยางอีพีดีเอ็ม (EPDM) ยางซิลิโคน (Silicone) ยางโพลียูรีเทน (Polyurethane) ยางนิโอปริน ยางเอสบีอาร์ (SBR) ยางไนไทรล์ (NBR) ยางคลอโรพริน (CR) ที่เหมาะสำหรับอุตสาหกรรมทุกชนิด ตามความเหมาะสมของงาน และจำหน่ายยางพาราในประเทศและต่างประเทศในแถบทวีปเอเชีย ทั้งยังมีฐานการผลิตยางพาราที่มีคุณภาพจากทางภาคใต้ ภาคอีสานและระยอง อีกด้วย 

Read more...

โอริง (Oring) คือ วัสดุที่มีพื้นที่หน้าตัดเป็นรูปวงกลม และมีรูปทรงเป็นวงกลมด้วยเช่นกัน ผลิตมาจากวัสดุที่มีคุณสมบัติยีดยุ่นได้ (Elastomers Material) จากวัสดุสงเคราะห์ชนิดต่าง ๆ ที่มีคุณสมบัติต่อสภาพการใช้งานที่แตกต่างกัน ทั้งสภาพแวดล้อมของวัสดุที่นำไปใช้ (Fluid) แรงดัน (Pressure) รวมทั้งอุณหภูมิความร้อน (Temperature)
      โอริง (Oring) จะถูกใช้งานในชิ้นส่วนของเครื่องจักร ชิ้นส่วนยานยนต์ จักรกลต่าง ๆ จะทำหน้าที่เป็นซีล (Seal) กันรั่วซึมของของไหล (Fluid) ในอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่สภาวะแวดล้อมนั้น อย่างเช่น ของเหลว (Liquids) หรือก๊าซ (Gases) ทั้งในระบบขนถ่ายและระบบกำลังของของไหล (Fluid) ซึ่งโอริง(Oring)จะถูกติดตั้งในชิ้นส่วนอยู่ 2 แบบคือ เป็นซีล (Seal) กันรั่วซึมตามข้อต่อต่าง ๆ (Static Seals) และอุปกรณ์เคลื่อนที่กลุ่มงานโรตารี่ต่าง ๆ (Rotary Seals)

การทำงานของโอริง (Oring)

       โอริง (Oring) หลังจากที่ติดตั้งเข้าไปในตำแหน่งติดตั้งเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะมีความยืดหยุ่นค่อนข้างสูง เพื่อที่ให้ตัวเข้ารูปกับวัสดุที่เป็นวัสดุแข็ง ทำให้ระหว่างผิวโอริง (Oring) กับผิวของวัสดุแข็งแนบสนิทไม่มีช่องว่าง รวมทั้งเมื่อโอริง (Oring) ได้รับแรงดันจากระบบที่ทำงาน จะยิ่งเพิ่มความสามารถขึ้นไปอีกเพราะเมื่อด้านหนึ่งถูกแรงดันกระทำจะทำให้อีกด้านหนึ่งเกิดการขยายตัวนั้นเอง...

ชนิดของโอริง (Oring Type)

      ประเภทหรือชนิดของโอริง (Oring) จะขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่นำมาผลิตเป็นโอริง (Oring) และลักษณะของการนำไปใช้งานเป็นหลัก ซึ่งโอริง (Oring) ไม่ได้มีหน้าตาเป็นแบบอื่น ๆ เลยนอกจากมีพื้นที่หน้าตัดเป็นวงกลม และรูปทรงก็เป็นวงกลมด้วยเท่านั้น ฉะนั้นจึงขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่นำมาผลิตและการนำไปใช้งานเท่านั้น เช่น  FFPM, NBR, EPDM, PTFE, VMQ, FVMQ เป็นต้น ส่วนโอริง (Oring) ที่มีการผลิต และใช้กันมากทั้งในอุตสาหกรรมฯ, เครื่องมืออุปกรณ์ และในงานทั่ว ๆ ไป หลัก ๆ พอสรุปได้ดังนี้
      - โอริง (Oring) NBR (Nitrile, Buna-N, NBR)
      - โอริง (Oring) ไวตัน Viton (Viton® or Fluorocarbon,FKM)
      - โอริง (Oring) ซิลิโคน (Silicone, VMQ)
      - โอริง (Oring) EPDM (Ethylene Propylene)

วัสดุที่ใช้ผลิตโอริง (Oring Material)

      วัสดุที่ใช้ผลิตโอริง มีการคิดค้นขึ้นมาใช้กันหลากหลายชนิด แต่ละชนิดมีคุณสมบัติต่อการใช้งานแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งาน แต่มีไม่กีชนิดที่รู้จักกันและนิยมใช้กันในชิ้นส่วนเครื่องจักรกล ดังนี้

- PTFE O-Rings
- Silicone O-Rings
- Viton® O-Rings, Fluorocarbon (FKM)
- Buna O-Rings, NBR Oring
- EPDM O-Rings
- Other Available Materials

Nitrile (Buna-N, NBR)
      ไนไตรเป็นยางทั่วๆไป ในกลุ่มของ Acrylonitrile Terpolymer Butadiene โดย acrylonitrile เป็นสารประกอบไนไตรล์ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญ (18% ถึง 50%) มีผลต่อสมบัติทางกายภาพของวัสดุ ส่งผลดีต่อความต้านทานต่อน้ำมันและความร้อนระดับหนึ่งในช่วงอุณหภูมิ -40 °C ถึง 120 °C (oil) หรือ 90 °C (water) ขณะเดียวกันยังมีความยืดหยุ่นและมีความต้านทานต่อแรงกดบีบอัด ยางไนไตรยังมีคุณสมบัติเชิงกลที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับยางชนิดอื่น ๆ และมีความต้านทานการสึกหรอสูง จึงนิยมใช้กันมาก
      
      CR (Chloroprene)
      เป็นยางสังเคราะห์ในยุคแรกที่พัฒนาในเชิงพาณิชย์ ถูกนำไปใช้งานทั่วไปในสภาวะที่ต้องการความต้านทานต่อสารเคมี แต่ก็มีสมบัติเชิงกลที่ดีในช่วงอุณหภูมิที่กว้าง ๆ เป็นยางที่มีต้นทุนต่ำสามารถพบได้ในกลุ่มยางรองเท้าและผลิตภัณฑ์ทั่วไป ในช่วงอุณหภูมิ -40 °F ถึง 250 °F (-40 °C ถึง 121 °C) ช่วงหลัง ๆ ไม่เป็นที่นิยม
      
      EPDM (Ethylene Propylene)
      EPDM เป็นพอลิเอทิลีน (ethylene) และโพรพิลี (propylene) โดยยาง Ethylenepropylene diene-(EPDM) จะถูกผลิตโดยใช้โมโนเมอร์ที่สามและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการกันรั่วซึมในของเหลวไฮดรอลิคส์ และในระบบเบรก มีช่วงอุณหภูมิการทำงานในวงกว้าง -65 °F ถึง 300 °F (-55 ?C ถึง 150 °C) นอกจากนี้นี้ยังใช้ในการอบไอน้ำและอุณหภูมิที่ต่ำกว่าการใช้งานที่อุณหภูมิปรกติด้วย
      
      Silicone (VMQ)
      ซิลิโคน เป็นยางที่ครอบคลุมกลุ่มของวัสดุจำพวก vinyl-methyl-silicone (VMQ) ซึ่งมักจะเป็นส่วนผสมกลาง ๆ ยางซิลิโคนเป็นยางที่มีความต้านทานแรงดึงค่อนข้างต่ำฉีกขาดง่ายและมีความต้านทานการสึกหรอได้ไม่ดี แต่ซิลิโคนมีความต้านทานความร้อนได้ดีขึ้นถึง 450 °F (232 °C) และสภาวะความเย็นได้ดีที่ -75 °F (-59 °C)
      
      Viton® or Fluorocarbon (FKM)
      Viton® (fluorocarbon rubber) เป็นยางที่มีคุณสมบัติที่ดีมากตัวหนึ่งที่ถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นเพื่อผลิตเป็นยางขอบซีล (Seal rubber) เป็นยางที่มีคุณสมบัติสามารถต้านทานได้ดีในที่อุณหภูมิสูงในทุก ๆสภาพ เช่น อากาศทั่วไป, ในน้ำมันไฮโดรลิกส์, น้ำมันเชื้อเพลิง, สารตัวทำละลาย, หรือสารละลายเคมีบางอย่าง เป็นตัน จึงเป็นวัสดุที่ดีที่ถูกเลือกนำมาเป็นวัสดุยางซีล (Seal rubber) Viton® มีความสามารถในช่วงอุณหภูมิ -15 °F ถึง 450 °F (-26 °C ถึง 232 °C)
      
      Fluorosilicone (FVMQ)
      ฟลอโร่ซิลิโคน (Fluorosilicone) เป็นยางในกลุ่ม trifluoropropyl ถัดจากกลุ่มเมธิล มีสมบัติเชิงกลและกายภาพคล้ายกับยางซิลิโคน (Silicone,VMQ) แต่ฟลอโร่ซิลิโคนคิคค้นพัฒนาขึ้นสำหรับงานระบบน้ำมันเชื้อเพลิงโดยมีความต้านทานต่อสารแร่ในน้ำมัน แต่ทนต่อสภาพอากาศร้อนได้ไม่ดีเมื่อเทียบกับซิลิโคน ยางฟลอโร่ซิลิโคนมีช่วงอุณหภูมิที่กว้างที่ในช่วงอุณหมูมิ 350°F (180°C) ถึง100°F (38°C) ซึ่งจะใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยมสำหรับงานแรงดันต่ำในระบบน้ำมันเชื้อเพลิง และสภาพอากาศที่เย็นจัด ๆ ได้เป็นอย่างดี

 

Read more...

เป็นตัวเชื่อระหว่างของ 2 สิ่ง ให้ทำงานไปพร้อมกันตามตัวส่งกำลัง เช่น การใช้ COUPLING ต่อระหว่าง MOTOR และ GEAR

Read more...